วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ตรวจเช็คปอกะบิดเป็นประจำ


 ใครที่มีปอกะบิดที่เก็บๆไว้เช็คของกันด้วยนะครับ อาจจะเสียของเลยทั้งถุงเหมือนผมก็ได้
เหตุก็มาจากที่เราๆรู้กันอยู่ว่า ช่วงก่อน มีพายุเข้ามา 2-3ลูก ช่วงเวลาก็หลายวันอยู่ เดี๋ยวลูกนี้หมดมีแดด2-3วัน ลูกใหม่เข้ามาอีกแล้ว (ปัญหาใหญ่ของคนที่ไม่มีเครื่องอบ)
 มันส่งผลให้ปอกะบิดของเราที่ตากนั้นแห้งไม่สนิท(ทั้งที่เราเช็คว่ามันแห้งสนิทแล้ว)
ทั้งนี้มีหลายปัจจัยด้วยกันที่ทำให้ปอกะบิดของเราไม่แห้งสนิท เช่น
  • ความชื้นของพื้นดิน ทำให้ใต้ผ้าใบที่เราตากสมุนไพร มีความชื้นเกิดเป็นหยดน้ำใต้ผ้าใบ
  • ความชื้นของอากาศที่มีอยู่มากในช่วงต้นฤดูหนาว และไม่มีแดด มีแต่เมฆ
  • อาจเปียกละอองฝน เนื่องจากฝนตกฉับพลันแล้วเก็บสมุนไพรไม่ทัน
  • ปอกะบิดสดๆที่เก็บมาแล้วไม่ได้เอาออกมาผึ่งลม ปล่อยอบอยู่ในถุง
  • เก็บปอกะบิดแห้ง และสดไว้ในห้องเดียวกัน ทำให้ห้องเก็บมีความชื้น
  • ปอกะบิดที่ตากไม่กี่แดด ยังไม่ทันแห้ง แล้วเจอฝน หรือความชื้นในห้องเก็บ
อย่างของผมเองเก็บไว้ในลัง 10ก.ก. คิดว่าแห้งสนิทแล้วแต่ด้วยสภาพอากาศช่วงที่มีพายุเข้า ทำให้ปอกะบิดนั้นเสีย ขึ้นราทั้งลัง 10ก.ก. ตามที่เห็นในรูป เสียดายมากๆฝักใหญ่สวยๆเก็บมาจากบนภูเขาทั้งนั้น เก็บมายากลำบาก
ยังไงเพื่อนๆที่มีปอกะบิด ควรตรวจเช็คให้สม่ำเสมอด้วยนะครับ เก็บในที่ที่คิดว่ามีความชื้นน้อยที่สุด และถ้าเป็นไปได้เอาออกมาตากแดดเป็นประจำทุกๆเดือนนะครับ

ส่วนวิธีเลือกซื้อปอกะบิดคุณภาพไร้เชื้อรา สามารถอ่านได้ที่โพสนี้ครับ
http://xn--l3cjddoqq6c6a1etbzk.blogspot.com/2013/10/blog-post_18.html

วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ถึงฤดูกาลเก็บฝักปอกะบิดแล้ว


 เข้าสู่ต้นเดือนพฤศจิกายน ฝักปอกะบิดก็สามารถเริ่มเก็บได้บ้างแล้ว ไปเก็บแถวๆชายเขามาได้ 22 กิโลกรัม อิอิ ฝักสดๆจากป่า100เปอร์เซนต์ เอาไปตากก่อน

วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2556

หลักการสังเกตุเลือกซื้อปอกะบิดเบื้องต้น



 ในช่วงปลายๆปีแบบนี้เป็นช่วงเวลาที่ปอกะบิดขาดตลาด เพราะเป็นช่วงที่ต้นปอกะบิดกำลังออกฝัก ฝักยังอ่อนและเล็กมาก ปอกะบิดเป็นพืชที่1ปีออกฝักเพียงครั้งเดียว พ่อค้าบางคนจึงตุนปอกะบิดไว้เยอะๆเพื่อขายราคาแพงๆในช่วงที่ปอกะบิดนี้ขาดตลาด

 สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อปอกะบิดนั้นก็คือ เชื้อรา !! ใช่แล้วเรากำลังต้องการดื่มน้ำสมุนไพรปอกะบิดเพื่อรักษาโรค แต่หากฝักปอกะบิดที่เราซื้อมานั้นมีเชื้อราติดมาด้วย ประกอบกับเราดื่มน้ำกินเป็นประจำจะเกิดอะไรขึ้น ???
เชื้อรานั้นก็มีหลายชนิด มีแบบกินได้ไม่เป็นอันตราย และชนิดที่มีพิษมาก กระทบการทำงานของระบบดูดซึม ไต และสมอง รวมถึงอวัยวะภายในต่างๆ หากภูมิคุ้มกันของเราอ่อนแอ
เราแยกด้วยตาไม่ออกหรอกว่าเชื้อราตัวไหนอันตรายหรือไม่ ทางที่ดีที่สุดนั้นก็คือเลือกซื้อปอกะบิดที่มีคุณภาพ ไม่เป็นของค้างปี และไม่แก่จนเกินไป
เชื้อราในฝักปอกะบิดเกิดขึ้นได้2แบบ

  1. ปอกะบิดที่แก่และแห้งคาต้น พวกนี้จะได้รับน้ำค้างในช่วงฤดูหนาวติดต่อกันเป็นเวลาหลายคืน จึงมีความชื้นสูงภายในฝัก
  2. ปอกะบิดที่ผ่านการผลิตที่ไม่ได้คุณภาพ,ไม่ถูกวิธี เช่น ปอกะบิดที่ตากแดดแล้วยังแห้งไม่ได้ที่ ปอกะบิดที่เก็บไม่ถูกวิธี เก็บในที่อับชื้น เป็นต้น
วิธีสังเกตุปอกะบิดที่มีโอกาศติดเชื้อรา

  • หากซื้อของออนไลน์ให้ตรวจสอบ ร้านที่ขายได้รับความเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน รูปสินค้าจริงหรือไม่(ควรขอดูรูปสินค้าจริงที่มีความชัดเจนของสี)
  • ตรวจสอบ แพ็ค-ห่อสินค้ามีคุณภาพแค่ไหน มีซองกันชื้นในแพ็คหรือไม่(ของแห้งประเภทสมุนไพรควรจะมีไว้เพื่อลดความชื้นในหีบห่อ)
  • สีของฝักปอกะบิดต้องไม่เป็นสี น้ำตาลทั้งฝัก น้ำตาลแก่-ดำ
  • เลือกฝักปอกะบิดที่มีสีเขียวปนอยู่ (สีเขียวจางๆบริเวณร่องด้านในของเกลียวฝัก)
  • ร้านวางขายปอกะบิดแบบไหน วางตากแดด ตากลม วางไว้ที่เดิมๆไม่ได้เก็บ วางห่างความชื้นมากแค่ไหน(คิดถึงตอนฝนตกด้วย ว่าห่อมันวางตรงนี้จะเปียกไหม ได้รับความชื้นมากไปหรือไม่)


หลักการสังเกตุเลือกซื้อฝักปอกะบิดเบื้องต้นนี้ คงจะทำให้หลายๆคนที่กำลังคิดซื้อปอกะบิดอยู่ มีความรู้เพิ่มขึ้นและเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเอง

ภาพโดย https://www.facebook.com/porkabid.in.th

วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เมล็ดพันธุ์ปอกะบิด


 ฝักปอกะบิด ที่แก่เต็มที่แล้ว(แห้งคาต้น จนฝักเกือบจะอ้าออก) เมื่อนำมาแกะ จะมีเมล็ดอยู่ด้านในของแต่ละเกลียว เมล็ดปอกะบิดนั้น มีขนาดราวๆ 1.5มิลลิเมตร
ปอกะบิด1ฝักจะสามารถแกะเมล็ดออกมาได้ราวๆ 40-60 เมล็ด แต่จะแกะยากอยู่สักหน่อยเพราะแต่ละเกลียวมีขนาดเล็ก กว่าจะแกะเมล็ดปอกะบิดได้1ฝักต้องใช้ความอดทนสูง

เมล็ดเยอะขนาดนี้ แล้วแต่การปลูกของแต่ละคนว่าจะปลูกขึ้นหรือไม่
โดยส่วนใหญ่ปอกะบิดที่ขึ้นเองนั้นจะชอบขึ้นตามที่สูง และเป็นดินที่ผสมหิน ความอุดมสมบูรณ์ของดินไม่มากปอกะบิดก็สามารถเจริญเติบโตได้ดี

วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2556

ปอกะบิด ราคา


ราคาของปอกะบิดนั้น บางคนอาจจะตกใจที่ ขนาด1ขีด ราคาตั้งแต่ 70 - 90 บาท
หลายคนสงสัยว่ามันจะคุ้มไหม ขนาดเท่าไหน เยอะไหม ?
 วันนี้เรามีคำตอบให้กับทุกๆคนครับ ว่าแล้วเราก็มาเริ่มกันด้วยปอกะบิดสดๆดีกว่า

ปอกะบิดสดๆนั้น จะมีน้ำหนักมาก เมื่อนำมาตากแดดจนแห้งดีแล้ว ปริมาณจะได้ดังนี้
ปอกะบิดสด 4 - 5 กิโลกรัม เมื่อตากแห้งแล้วจะได้ ปอกะบิดแห้งเพียง 1 กิโลกรัมเท่านั้น!!

ปอกะบิดแห้ง เมื่อ อบ-คั่ว แล้ว น้ำหนักจะหายไปราวๆ 5-10% หรือประมาณ 9ขีด

ปอกะบิด 1กิโลกรัมนั้น จะมีขนาดพอๆกับ ข้าวสารถุง5กิโล ที่เราเห็นขายกันตามห้างนั่นเอง
หรือจะดูจากรูปประกอบด้านบนก็ได้ รูปด้านบนนั้นเป็นปอกะบิดขนาด8ขีด
อัดแน่นอยู่ในถุงขนาด 10" x 15" ดูตามลายกระเบื้องก็ได้
ตามความคิดของผมคิดว่า สมกับราคาแล้วนะ เพราะปอกะบิดเป็นสมุนไพรที่ 1ปีจะออกฝักเพียงครั้งเดียวด้วย

เครดิตรูปจาก ปอกะบิด.ไทย

http://www.pantipmarket.com/ipage/porkabid/

วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2556

พาเที่ยวชมดูต้นปอกะบิด


คั่นเวลา ด้วยการไปเยี่ยมชมต้นปอกะบิดกันก่อนนะครับ
ปอกะบิดนั้นจะขึ้นเป็นดง หลายๆต้นใกล้กัน เพราะหลังจากที่ฝักแก่และแตกแล้ว เมล็ดก็จะหล่นอยู่บริเวณรอบๆ
http://www.youtube.com/watch?v=uOHZvbYu7Ho

วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ต้นปอกะบิด

ต้นกล้า ปอกะบิด

รูปด้านบนนี้คือต้นกล้าของปอกะบิด ที่ซื้อขายกันที่ราคา 50-100 บาท ถือว่าแพงเลยทีเดียวสำหรับต้นกล้า แต่อาจจะราคาลดลงไปเรื่อยๆเนื่องจากว่าปัจจุบันนี้ปอกะบิดเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และมีผู้สนใจศึกษารวมถึงปลูกไว้ขายก็มี
ต้นปอกะบิด กำลังออกดอก

นี่คือรูปต้นปอกะบิดที่ออกดอก แหมดกเชียว
ดอกปอกะบิดจะออกช่วงเดือนกรกฏาคม แล้วจะเป็นฝัก จะเก็บได้ช่วงประมาณเดือนธันวาคม

สำหรับคนที่ไม่รู้จักต้นปอกะบิดนั้นไปเจอเผลอๆอาจจะขวางหูขวางตา ด้วยต้นที่มีกิ่งก้านแตกออกมากินพื้นที่ ปอกะบิดนั้นแถวๆบ้านผมโดนชาวบ้านตัดกันไปเยอะ ไหนจะพวกที่ขึ้นข้างถนนแล้วโดนเทศบาลตัดอีก จึงไม่แปลกที่ปอกะบิดจะหายากในช่วงนี้

ในบทความหน้าเราจะมาทำความรู้จักกันต่อกับฝักของปอกะบิดครับ